“เดี๋ยวนี้เค้าอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คเป็น 8GB กันหมดแล้ว”
คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความจากปากของเพื่อนผมแต่ให้ความรู้สึกเหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยกไฟแดงฉาดใหญ่เข้าอย่างจัง หลังจากที่ได้ทำการคุยโม้กับเพื่อนผมถึงเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวใหม่ที่ผมพึ่งถอยมา แต่ผมก็ยังพยายามที่จะหาเหตุผลมาลบล้างคำสบประมาทให้กับเพื่อนผมจนมันก็พูดออกมาอีกว่า “เออๆ มันก็เร็วอยู่หรอกไอ้ซีพียูตัวใหม่อะแต่ถ้ามึงจะใช้ยาวๆมึงก็อัพเกรดแรมเพิ่มเข้าไปด้วยสิจะได้ทำงานได้เร็วขึ้นอีก” (เออมันก็พูดเข้าท่าเว้ยเฮ้ย) พอมันพูดจบเท่านั้นละผมรีบเปิดเว็บเช็คราคาทันที ก็ไปเจอแรม DDR4 8GB ราคาก็พอยอมรับได้เว้ย 3,XXX บาท ว่าแล้วก็คิดในใจว่าเฮ้ยราคาขนาดนี้ยกโน๊ตบุ้คไปให้ที่ร้านใส่ไม่คิดค่าบริการแน่ๆ ว่าแล้วกดโทรศัพท์เช็คกับทางร้านก่อน
ร้าน: “อ่อติดตั้งให้ได้ครับ แต่ว่าต้องมีค่าบริการแกะเครื่องด้วยนะครับ”
ผม: (Stun ไปแปปนึง กับคำว่าค่าบริการแกะเครื่อง)”หมายความว่ายังไงครับค่าแกะเครื่อง แรมราคาขนาดนี้ไม่มีติดตั้งให้ฟรีหรือครับ แล้วค่าบริการเท่าไหร่นะครับ?”
ร้าน: “ต้องขออภัยด้วยครับ แต่สินค้าประเภทนี้ไม่มีติดตั้งให้ฟรีครับ ส่วนเรื่องค่าบริการถ้าแกะง่ายก็ 100 บาท ถ้าแกะยากก็ 300 บาท ครับ”
ผม: (ยังมึนๆงงๆ) “แล้วถ้าเกิดทางร้านงัดเครื่องแล้วเกิดเจอปัญหาตัวเครื่องมีปัญหานี่จะรับประกันซ่อมให้ด้วยไหมครับ”
ร้าน: “ก็ต้องดูไปตามเคสนะครับถ้าสามารถรับประกันได้ก็จะไม่คิดค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดปัญหากับตัวเครื่องนะครับ”
ผม: อ่อโอเคครับขอบคุณมากครับ…วางสาย
ผมสบถในใจ “@#$% อะไรของมึงวะครับเนี่ยขายของราคาขนาดนี้ต้องเสียค่าแงะแถมต้องแบกรับความเสี่ยงเองอีก แล้วกรูวจะแบกโน๊ตบุ้คไปที่ร้านเพื่อ!!” หลังจากนั้นผมกลับมานั่งพักหน้าจอคอมพร้อมกับเปิดหาวิธีแกะโน๊ตบุ๊ครุ่นผม ปรากฎว่า “ไม่มีอีก!!” โอ้พระเจ้าทำไมการอัพเกรดแรมช่างมีอุปสรรคเยอะเหลือเกิน…
ผมใช้เวลาหาอยู่เกือบชั่วโมงก็ไปเจอคลิปวีดีโอตัวอย่างจากเมืองนอกในยูทู้บ แต่ก็จะเป็นพวกโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆที่เป็นรุ่นบางคล้ายๆกับโน๊ตบุ้คของผมซึ่งเท่าที่ดูก็ไม่ยากเท่าไหร่เสร็จปุ้บผมก็หาข้อมูลเพิ่มเติมนิดหน่อยก่อนจะทำการตัดสินใจสั่งซื้อแรมและก็รอประมาณสองวันแรมที่ผมสั่งซื้อก็มาถึง หลังจากเช็คของเรียบร้อยทุกอย่างโอเคแล้วเราก็มาลุยกันเลยดีกว่า
ข้อควรระวัง
ก่อนที่ท่านจะทำการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ้คหรือแล็ปท็อปสุดที่รักของท่านควรทำการศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนว่า โน๊ตบุ้คหรือแล็ปของท่านนั้นสามารถทำการอัพเกรดได้หรือไม่เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องเสียเงินโดยไม่จำเป็น
การรีวิวในครั้งนี้ตัวผมเองได้ใช้โน๊ตบุ๊คของผมที่ใช้ทำงานในปัจจุบัน (Lenovo 320s 14″) เป็นตัวอย่างในการอัพเกรดแรมดังนั้นวิธีในการแกะ หรือเปิดฝาเครื่องนั้นจะไม่เหมือนกับโน๊ตบุ๊คหรือแล็ปท็อปของท่านผู้อ่านดังนั้นท่านผู้อ่านควรศึกษาลักษณะและโครงสร้างโน๊ตบุ๊คของท่านผู้อ่านให้ดีก่อนที่จะทำการ งัด แงะ แกะ และรื้อโน๊ตบุ๊คของท่านผู้อ่าน เพื่อไม่ให้เกิดอาการ “พัง!!” ที่อาจเกิดขึ้นได้
การรีวิวในครั้งนี้ทางผมจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หากเกิดปัญหาหลังจากที่ท่านผู้อ่านได้ทำการเปลี่ยนอุปกรณ์ หรืออัพเกรดภายในโน๊ตบุ๊คหรือแล็ปท็อปเพราะถือว่าท่านผู้อ่านเป็นผู้ตัดสินใจที่จะทำการเปลี่ยน หรืออัพเกรดอุปกรณ์ของท่านด้วยตัวท่านเอง ทางผมได้เขียนบทความนี้ขึ้นเพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นเพื่อช่วยในการตัดสินใจให้กับผู้อ่าน เท่านั้น
“การงัดแงะโน๊ตบุ๊คเพื่อทำการอัพเกรดมีความเสี่ยง ผู้ใช้งานควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงมือทำ”
หากท่านผู้อ่าน ยังสนใจที่จะลองอัพเกรดโน๊ตบุ๊คสุดที่รักของท่านหลังจากที่ได้อ่านคำเตือนข้างต้นนี้แล้ว งั้นเราก็มาเริ่มกันเลยนะครับ!!
ขั้นแรก: เปิดฝาเครื่อง
ขั้นตอนแรกให้เราทำการขันน๊อตทุกตัวตรงฝาหลังของเครื่องออกให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่อันเดียว ถ้าในกรณีที่โน๊ตบุ๊คของท่านมีช่องสำหรับอัพเกรดแรมโดยเฉพาะก็ให้ขันน๊อตแค่เฉพาะตรงจุดนั้นเท่านั้นนะครับ
หลังจากที่ถอดน็อตออกทุกตัวแล้วให้เราค่อยๆเอาแท่งพลาสติก หรือแผ่นพลาสติกที่มีสอดเข้าไปบริเวณด้านข้างของตัวเครื่อง
ขั้นตอนที่สอง: ประกอบแรมเข้ากับตัวเครื่อง
หลังจากที่เราเปิดฝาเครื่องออกแล้วก่อนที่จะทำการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คผมขออธิบายส่วนประกอบหลักๆของเจ้าโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ก่อนนะครับว่ามีส่วนไหนบ้างที่เราสามารถอัพเกรดได้
เจ้า Lenovo Ideapad 320s หลังจากที่เปิดฝาเครื่องออกมาเราจะสามารถแบ่งได้สามส่วนที่สามารถอัพเกรดได้ ตามวงกลมที่ผมวงไว้ตามภาพดังนี้
วงกลมสีแดง: ตรงส่วนนี้จะเป็นส่วนของแรมที่เราจะทำการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ้คกันในวันนี้ซึ่งจะถูกครอบไว้ด้วยแผ่นอลูมิเนียมซึ่งผมคิดว่ามันครอบไว้เพื่อป้องกันแรมจากฝุ่น และช่วยในการระบายความร้อน(ความเห็นส่วนตัวหากผิดพลาดต้องขออภัยด้วยครับ)
วงกลมสีฟ้า: ตรงส่วนนี้จะเป็นPCIE slot สามารถเลือกที่จะติดตั้ง SSD หรือIntel Optain 16GB(สเปค อ้างอิงจากเว็บไซต์Lenovo)ได้อย่างใดอย่างนึงเท่านั้น
วงกลมสีเหลือง: ตรงนี้จะเป็นส่วนของHDDเป็นชนิดSATA3 ซึ่งจะถูกครอบไว้ด้วยแผ่นฟอยล์ ซึ่งสามารถอัพเกรดเป็นSSD SATAได้ครับ
หลังจากที่เราได้รู้ส่วนประกอบที่สามารถอัพเกรดได้แล้วเราก็มาทำการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ้คกันเลยดีกว่า
เริ่มจากให้เราค่อยๆดึงเจ้าฝาครอบแรมออก เราจะเห็นแรมที่ติดมากับตัวเครื่อง
ให้เราดันเจ้าเขี้ยวล็อคทั้งสองข้างของแรม (ตามวงกลมสีแดงในรูป) ดันออกจากตัวแรม ก็จะทำให้แรมตัวเดิมนั้นเด้งขึ้นมาเพื่อให้เราสามารถดึงออกได้อย่างง่ายดายหลังจากนั้นให้เรานำเจ้าแรมที่เราต้องการจะอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คใส่เข้าไปแทนที่แรมของเดิมแล้วค่อยๆดันให้เขี้ยวทั้งสองข้างล็อคตัวแรมให้เรียบร้อย (จุดสังเกตุคือจะมีเสียงเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวล็อคของแรมได้ทำการล็อคเรียบร้อยแล้ว)
หลังจากที่เราอัพเกรดแรมโน๊ตบุ้คเรียบร้อยแล้วร้อยแล้วให้ทำการนำเจ้าฝาครอบมาครอบปิดให้เหมือนเดิมก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนที่สอง เราจะเห็นได้ว่าการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คนั้นไม่ได้ยากหรือมีอะไรที่ซับซ้อนมากมายอย่างที่คิดเลยใช่ไหมละครับซึ่งหลังจากผ่านขั้นตอนที่สองนี้ไปได้แล้วเราก็จะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการประกอบฝาเครื่องให้กลับเป็นเหมือนเดิม
ขั้นตอนสุดท้าย: ประกอบฝาเครื่อง
หลังจากที่อัพเกรดแรมโน๊ตบุ้คเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายนี้ให้เราทำการปิดฝาครอบตัวเครื่องกลับเข้าไปเหมือนเดิมโดยให้ใส่ลงตรงตรงๆแล้วค่อยๆกดเบาให้เขี้ยวล็อคตรงตัวฝาครอบนั้นล็อคเข้ากับตัวเครื่องทุกด้านแล้วให้เราขันน็อตที่ยึดตัวเครื่องกับฝาเครื่องเข้าด้วยกันจนครบก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ทางผู้ผลิตเองก็ได้พัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานโดยการสร้างความสะดวกสบาย และง่ายต่อผู้ใช้งานในการที่จะเรียนรู้ และทำการอัพเกรดอุปกรณ์ของผู้ใช้งานด้วยตัวเอง การที่เราจะอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คนั้นไม่ได้ยากเหมือนแต่ก่อนแถมยังใช้อุปกรณ์ที่หาได้ภายในบ้านเพียงไม่กี่ชิ้นอีกด้วย
หลังจากที่ผมทำการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมได้ทำการทดสอบเบื้องต้นปรากฎว่า “มันทำงานเร็วขึ้นกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัดเจน!!” ไม่ว่าจะเป็นการcompileงานต่าง หรือแม้แต่เล่นเกมก็สามารถเล่นได้ลื่นยิ่งขึ้นอย่างในภาพตัวอย่างด้านล่างผมได้ทำการทดสอบกับเกมส์ Bioshock Re-mastered เกมส์ขวัญใจของใครหลายๆคนก็ไม่มีอาการหน่วงแต่อย่างใด ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในการอัพเกรดแรมโน๊ตบุ๊คของผมในครั้งนี้และถือว่าคุ้มค่าในการลงทุนเพราะผมได้ความรู้ใหม่ๆบวกกับการที่ประสิทธิภาพการทำงานของโน๊ตบุ๊คของผมนั้นดีขึ้นด้วย
สุดท้ายนี้ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านที่ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผมนะครับ